อันตรายจากการป่วยเป็นไข้หวัด 

อย่างที่เรารู้กันดีว่า  ไข้หวัดใหญ่นั้นเป็นโรคที่เราสามารถเจ็บป่วยกันได้มากที่สุดโลกหนึ่งและเป็นได้ทุกฤดูกาล   ทำให้หลายคนนั้นบางครั้งก็เกิดความชะล่าใจ เมื่อป่วยเป็นไข้หวัดก็ไม่ค่อยใส่ใจมากนัก  เพราะคิดว่าถ้าหากเป็นไข้หวัดก็จะมีอาการป่วยไข้ประมาณแค่ 3-4 วันก็หายหรือเต็มที่ก็ไม่น่าจะเกิน 7 วัน

แต่อันที่จริงแล้วถึงคนส่วนใหญ่จะมีสภาพร่างกายที่คุ้นชินกับการป่วยเป็นไข้หวัดแต่จริงๆแล้วไข้หวัดนั้นก็มีอันตรายได้เช่นเดียวกันดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงอันตรายที่เกิดจากการเป็นไข้หวัดว่ามีอะไรบ้าง 

อย่างไรก็ตามอย่างที่เรารู้กันดีว่าโดยปกติแล้วหากใครเป็นไข้หวัดนั้นอาการจะไม่ได้รุนแรงมากนัก

แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่คนที่ป่วยเป็นไข้หวัดนั้นมีอาการติดเชื้อแบคทีเรียปะปนเข้ามาด้วยมันจะไปสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงและใหญ่หลวงให้กับคนที่เป็นไข้หวัดได้เลยทีเดียวซึ่งมันจะทำให้เกิดอันตรายมากยิ่งขึ้น

  โดยเบื้องต้นนั้นเราจะเห็นได้ว่าใครก็ตามที่เป็นไข้หวัดมักจะมีน้ำมูกไหลซึ่งโดยปกติแล้วน้ำมูกนั้นจะเป็นสีใสแต่เมื่อใดก็ตามที่ติดเชื้อแบคทีเรียนั้นน้ำมูกก็จะเปลี่ยนจากสีใสมาเป็นสีเหลืองหรือสีเขียวรวมถึงอาจจะมีเสลดร่วมด้วยซึ่งถ้าหากว่าไม่รีบรักษาเชื้อแบคทีเรียนี้ก็จะลุกลามไปยังพื้นที่บริเวณใกล้เคียงอย่างเช่นบริเวณลำคอหลอดลมและส่งผลทำให้มีอาการอื่นๆตามมายก

ตัวอย่างเช่นอาจจะมีสภาวะการติดเชื้อที่บริเวณหูชั้นกลางซึ่งถ้าหากว่าเชื้อมีความรุนแรงและไม่ได้รักษาก็อาจจะทำให้เกิดอาการปวดหูหรือถ้าหากว่ามากกว่านั้นก็อาจจะส่งผลทำให้แก้วหูทะลุก็ได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ยังส่งผลร้ายแรงอื่นๆอย่างเช่นอาจจะมีการติดเชื้อแถวบริเวณลำคอทำให้เกิดอาการไอและคออักเสบหรือถ้าหากเชื้อกระจายไปยังหลอดลมก็จะยิ่งมีอาการไอรุนแรงมากยิ่งขึ้นและอาจจะส่งผลไปยังปอดรวมถึงเกิดอาการหอบหืดได้  แล้วถ้าหากว่าเชื้อโรคปอดเมื่อไหร่อาการจะรุนแรงมากยิ่งขึ้นเพราะมันจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและอาจจะส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียว 

นอกจากนี้ถ้าหากใครปล่อยให้ตนเองเป็นไข้หวัดและเรื้อรังโดยไม่รีบรักษาอาการมันจะส่งผลทำให้สุขภาพร่างกายทรุดโทรมและจะมีโรคอื่นๆตามมาอีกเยอะแยะมากมาย

  อย่างเช่นเราจะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อเราเป็นโรคไข้แล้วมีน้ำมูกทำไมรีบรักษามันจะทำให้เรามีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยเป็นโรคไซนัสอักเสบ  เนื่องจากว่าน้ำมูกนั้นไปขังอยู่บริเวณโพรงจมูกและถ้าหากว่าเป็นไซนัสอักเสบก็จะมีผลต่อบุคลิกของเราเพราะจะมีกลิ่นเหม็นออกมาทางจมูกและถ้าหากว่าโรคไซนัสอักเสบอย่างรุนแรงก็อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบประสาทการมองเห็นของเราด้วย

 

ได้รับการสนับสนุนโดย      เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ

3 สัญญาณอันตรายจากการมีประจำเดือนที่ผิดปกติ

 

การมีประจำเดือน เป็นหนึ่งในสิ่งที่สาวๆนั้นจะต้องเป็นในทุกๆเดือน และเป็นสิ่งที่ทำให้สาวๆหลายคนนั้นรู้สึก เป็นกังวล มีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงบ่อย และไม่ค่อยชื่นชอบมากยิ่งนัก เนื่องจากการมีประจำเดือนนั้นอาจทำให้สาวๆหลายคนใช้ชีวิตได้ยากลำบากมากขึ้นอีกทั้งยังต้องมาทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดท้องที่ต้องเป็นทุกๆเดือนอีกด้วย ซึ่งการมีประจำเดือนเป็นหนึ่งในสิ่งที่

สาวๆส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ แต่การดูแลสุขภาพร่างกายถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญ ที่ทำให้สาวๆนั้นสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทว่า ร่างกายของคนเราก็มักที่จะไม่เหมือนกันหรือมีระบบการทำงานที่ไม่เหมือนกันจึงอาจทำให้บางคนนั้นมีการเป็นประจำเดือนที่ผิดปกติขึ้นได้ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เรามีประจำเดือนที่ผิดปกตินั้น นอกจากจะทำให้เรามีความกังวลแล้ว

มีประจำเดือนที่ผิดปกติ ยังอาจเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกถึงความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายของเราได้ ซึ่งสาวๆก็ควรที่จะรีบเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและรักษาต่อไป ฉะนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า จะมีสัญญาณเตือนไหนกันบ้างนั้น ที่อาจเกิดขึ้นจากความผิดปกติ การมีประจำเดือนที่ผิดปกติ เผื่อว่าสาวๆส่วนใหญ่จะได้สังเกตอาการของตนเองและรีบเข้ารับการรักษาไปดูกันเลย

  • การมีรอบเดือนที่ผิดปกติ

แน่นอนว่าการที่สาวๆ ส่วนใหญ่มีรอบเดือนมาที่ผิดปกติ อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการทานยาคุมกำเนิด ซึ่งสาเหตุนี่ก็อาจเกิดขึ้นได้กับร่างกายของแต่ละบุคคล แต่สำหรับใครที่มีรอบเดือนมาแบบผิดปกติ จนส่งผลกระทบ ต่อการเป็นสิว รังไข่ทำงานผิดปกติ หรือมีอารมณ์ที่แปรปรวนอย่างรุนแรงก็ควรที่จะรีบเข้ารับการปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา เพื่อไม่ให้อาการนั้นรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนส่งผลกระทบต่อชีวิต

  • อาการปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง

หลายคนอาจจะมองว่าอาการปวดท้องเป็นอาการที่เกิดขึ้นปกติจากการมีประจำเดือนเพราะมดลูกของเรานั้นเกิดการหดเกร็งจนทำให้มีอาการปวด แต่ในความเป็นจริงแล้วหากเรามีอาการปวดที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นอาการนี้ก็อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกได้ว่าร่างกายของเรากำลังได้รับความเสี่ยง ยิ่งถ้าเป็นแบบนี้เป็นประจำก็อาจทำให้ร่างกายของเรานั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่ายนั่นเอง

  • ประจำเดือนมีกลิ่นที่รุนแรง

อาการนี้ถือเป็นอาการที่พบไม่บ่อยมากนักแต่ก็ถือว่าเป็นอาการที่รุนแรง ที่เราไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสาวๆที่มีประจำเดือนผิดปกติ ซึ่งหากประจำเดือนของเรามีกลิ่นเหม็นที่รุนแรงนั้น ก็อาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การติดเชื้อราฯลฯ เชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดจนทำให้มดลูกของเราเกิดอาการอักเสบและมีประจำเดือนที่มีกลิ่นรุนแรงนั่นเอง

ซึ่งอาการนี้หากใครที่เป็นบ่อยๆก็ควรที่จะไปตรวจเช็คสุขภาพร่างกายของตนเองเพื่อไม่ให้ ร่างกายได้รับความเสี่ยงที่รุนแรงมาก

 

สนับสนุนโดย.  เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ

รู้จักไหม สารอนุมูลอิสระ และสารต้านอนุมูลอิสระ

พวกเราคงรู้กันแล้วว่าของกินเป็นของที่จำเป็นต่อชีวิตของผู้คนอย่างพวกเราเป็นอย่างยิ่ง พวกเรารับรู้ว่าของกินเป็นสารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย สร้างเสริมการเติบโต และก็ซ่อมบำรุงรักษาส่วนที่สึกหรอ สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโดยจะแบ่งเป็นกรุ๊ปใหญ่ ๆ ตามส่วนประกอบเบื้องต้นทางเคมี แล้วก็หน้าที่ต่อสภาพทางด้านร่างกายเป็น 5 กรุ๊ป 

คราวนี้ พวกเราจะได้ทราบเกี่ยวกับของกินในอีกฐานะหนึ่ง ซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะ และก็เป็นที่เอ่ยถึงมากเพิ่มขึ้นในระยะ 20 ปีที่ล่วงเลยไป มันก็คือ ของกินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ

รู้จักคำว่า อนุมูลอิสระ หรือไม่ หากมองถึงที่มาของคำนี้ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่สื่อความหมายราวกับหรือคล้ายคลึงกัน ใช้แทนกันได้ ซึ่งในภาษาอังกฤษจะใช้หลายคำ แม้กระนั้นในภาษาไทยพวกเรา จะใช้เพียงแค่คำเดียวเป็น อนุมูลอิสระ ยกตัวอย่างคำภาษาอังกฤษ เช่น Free radical (Oxygen), Oxidative Stres และอื่น ๆ 

นอกจากนั้นยังมีสารเคมี แต่ว่าเกิดขึ้นนอกร่างกายแล้วร่างกายรับเข้าไป อาทิเช่น ยากำจัดวัชพืช, สารกำจัดศัตรูพืช, ยารักษาโรคมะเร็ง, รังสีรักษา, แสงสว่าง UV ฯลฯ

ถ้าหากพวกเราจะกล่าวให้สั้น ๆ สารอนุมูลอิสระ ก็คือ พิษที่เกิดขึ้นในร่างกายตามธรรมชาติ จากกรรมวิธีต่าง ๆ ภายในร่างกาย (Metabolism) รวมทั้งพิษที่มาจากด้านนอกร่างกาย แล้วไปสู่ระบบร่างกายของพวกเราพิษพวกนี้ บางทีก็มีคุณประโยชน์ต่อพวกเรา อาทิเช่น ขณะที่เม็ดเลือดขาวปลดปล่อยสารอะไรบางอย่างออกมาเพื่อทำให้เกิดความเสื่อมสภาพของเชื้อโรคที่รุกล้ำร่างกายของพวกเรา สารพวกนั้นก็คือ อนุมูลอิสระ นั่นเอง แม้กระนั้นโดยมากแล้ว ล้วนเป็นอันตราย รวมทั้งรังแกเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย แม้กระนั้นร่างกายก็จะมีการต้านทานอนุมูลอิสระพวกนี้

โดยการผลิตสารขึ้นมา ซึ่งพวกเราเรียกว่า สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ดังเช่นว่า CATALASE, DISMUTASE, GTUTATHIONE อื่นๆอีกมากมาย แล้วก็รับจากด้านนอก ที่มีอยู่ในสารอาหารที่พวกเรากินเข้าไป ยกตัวอย่างพวก วิตามินเอ, ซี, อี, บี อื่น ๆ อีกมากมาย เกลือแร่อะไรบางอย่าง ดังเช่น สังกะสี, ซีลีเนียม อื่น ๆ อีกมากมาย รวมทั้งบางโอกาสร่างกายรับเข้าไปเป็นวัตถุดิบ

เพื่อผลิตสารต้านอนุมูลอิสระ อาทิเช่น สารอาหารโปรตีนที่ชื่อ Cysteine เป็นสารที่ร่างกายได้ใช้เพื่อสังเคราะห์ออกมาเป็น Glutathione สารที่เป็นข่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าสถานพยาบาลความสวยสดงดงามบางที่นำไปฉีดเพื่อทำให้ผิวขาวขึ้น ลดกระ ลดฝ้าดำ ใช้สาร N-Acetylcysteine ในจำนวน สูง เพื่อกระตุ้นร่างกายให้สร้าง Glutathione

สำหรับการต่อต้านพิษของยาพารา ที่ได้รับเกินขนาด เพื่อปกป้องตับอักเสบ หรือตับวาย ไตวายจากพิษยา รวมทั้งในกรณีแพ้ยาร้ายแรงจนกระทั่งผิวหนังไหม้ลอกตลอดตัว ก็สามารถใช้ประโยชน์จากยาจำพวกนี้ได้ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า Glutathione เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายใช้มากมาย แล้วก็ใช้อยู่เสมอ รวมทั้งชี้ให้เห็นถึงคุณประโยชน์ซึ่งมาจากสารต้านอนุมูลอิสระที่มีต่อสภาพทางร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ