Shein เว็บไซต์สำหรับการช้อปปิ้งออนไลน์ 

เชื่อว่าสำหรับนักช้อปปิ้งออนไลน์แล้วหลายคนอาจจะรู้จักชื่อเสียงของเว็บไซต์ Shein  กันเป็นอย่างดีหรือบางคนก็อาจจะไม่เคยได้ยิน

ชื่อเว็บไซต์นี้มาก่อนดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำเว็บไซต์ Shein   ซึ่งเป็นเว็บไซต์ดีๆสำหรับนักช้อปนั่นเองโดยเว็บไซต์นี้มีการเปิดบริษัทมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี พ.ศ 2551 และมีการขายสินค้าให้กับหลายประเทศทั่วโลกรวมแล้วมีมากกว่า 220 ประเทศเลยทีเดียว 

สำหรับ Shein นับเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมจากนักช้อปปิ้งออนไลน์เป็นอย่างมากเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีการขายสินค้าหลากหลายประเภทโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าประเภทเสื้อผ้าและเครื่องประดับรวมถึงกระเป๋าและรองเท้าพวกสินค้าแฟชั่นทั้งหลายนั้นรับรองได้เลยว่าคุณจะหาได้จากเว็บไซต์ Shein โดยทางเว็บไซต์นี้จะเน้นขายสินค้าให้กับนักช้อปปิ้งสาวๆเป็นหลักแต่ก็ยังมีสินค้าประเภทอื่นรวมอยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็นของเด็กหรือของผู้ชายก็ตาม 

สำหรับในประเทศไทยนั้นผู้คนอาจจะไม่ค่อยรู้จักเว็บไซต์ She in กันมากนักแต่สินค้าของ Shein นั้นมีสไตล์มากมาย

หลายแบบเป็นเทรนใหม่ๆที่นักออกแบบนั้นมีการออกแบบหลากหลายไม่ว่าจะเป็นชุดเสื้อผ้ากราฟิกหรือแม้แต่ชุดแนวโบฮีเมียนก็มีและที่สำคัญสินค้าของ She in นั้นราคาย่อมเยาว์เป็นสินค้าที่นักช้อปปิ้งออนไลน์สามารถจับต้องได้ไม่แพงจนเกินไป 

ถึงแม้ว่าสินค้าส่วนใหญ่ของ She in นั้นจะเป็นสไตล์แนวฝั่งยุโรปและฝั่งตะวันออกกลางรวมถึงอเมริกาซะเป็นส่วนใหญ่แต่สินค้าที่ขายในประเทศไทยก็มีให้เลือกเยอะแยะเช่นเดียวกันและมีมากมายหลายไซส์มีแบบและลวดลายเก๋ๆให้เลือก Shopping เยอะรับรองว่าใครที่ชื่นชอบการ Shopping เสื้อผ้าออนไลน์หากได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมในเว็บไซต์จีนจะต้องรู้สึกชื่นชอบอย่างแน่นอนเพราะสินค้านั้นมีความทันสมัยและวัสดุที่นำมาตัดเย็บนั้นก็ใช้วัสดุดีมีคุณภาพ 

สำหรับใครที่อยากจะช็อปปิ้งสินค้าออนไลน์ในเว็บไซต์ของ She in นั้นขั้นตอนการช้อปปิ้งไม่ยุ่งยากเลย

คุณแค่เข้าไปที่เว็บไซต์ของ She in โดยตรงไปเลือกหมวดหมู่ของสินค้าที่คุณต้องการช้อปปิ้งว่าอยากจะช็อปปิ้งเครื่องประดับหรือเสื้อผ้าหรือกระเป๋ารองเท้าเมื่อเลือกสินค้าได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เลือกสั่งซื้อและกดชำระเงินได้เลย

อย่างไรก็ตามสินค้าที่ส่งมาจากเว็บไซต์ของ Shein นั้นจะเป็นสินค้าที่ถูกส่งมาจากประเทศจีนดังนั้นอาจจะใช้ระยะเวลาในการรับสินค้า แต่ก็ไม่นานจนเกินไปเพราะโดยปกติแล้วสินค้าจะส่งให้กับลูกค้าประมาณ 3-5 วันเท่านั้นและ ช่องทางการชำระเงินนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายเหมือนกับการชำระสินค้าออนไลน์ในเว็บไซต์อื่นๆทั่วไป

เพราะมีให้เลือกการชำระบัตรเครดิตก็ได้หรือจะชำระโดยการเก็บเงินปลายทางก็ได้เช่นเดียวกันหรือปัจจุบันก็มีแอปธนาคารต่างๆที่สามารถลิ้งค์ชำระผ่านได้เช่นเดียวกัน  

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

อันตรายจากการป่วยเป็นไข้หวัด 

อย่างที่เรารู้กันดีว่า  ไข้หวัดใหญ่นั้นเป็นโรคที่เราสามารถเจ็บป่วยกันได้มากที่สุดโลกหนึ่งและเป็นได้ทุกฤดูกาล   ทำให้หลายคนนั้นบางครั้งก็เกิดความชะล่าใจ เมื่อป่วยเป็นไข้หวัดก็ไม่ค่อยใส่ใจมากนัก  เพราะคิดว่าถ้าหากเป็นไข้หวัดก็จะมีอาการป่วยไข้ประมาณแค่ 3-4 วันก็หายหรือเต็มที่ก็ไม่น่าจะเกิน 7 วัน

แต่อันที่จริงแล้วถึงคนส่วนใหญ่จะมีสภาพร่างกายที่คุ้นชินกับการป่วยเป็นไข้หวัดแต่จริงๆแล้วไข้หวัดนั้นก็มีอันตรายได้เช่นเดียวกันดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงอันตรายที่เกิดจากการเป็นไข้หวัดว่ามีอะไรบ้าง 

อย่างไรก็ตามอย่างที่เรารู้กันดีว่าโดยปกติแล้วหากใครเป็นไข้หวัดนั้นอาการจะไม่ได้รุนแรงมากนัก

แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่คนที่ป่วยเป็นไข้หวัดนั้นมีอาการติดเชื้อแบคทีเรียปะปนเข้ามาด้วยมันจะไปสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงและใหญ่หลวงให้กับคนที่เป็นไข้หวัดได้เลยทีเดียวซึ่งมันจะทำให้เกิดอันตรายมากยิ่งขึ้น

  โดยเบื้องต้นนั้นเราจะเห็นได้ว่าใครก็ตามที่เป็นไข้หวัดมักจะมีน้ำมูกไหลซึ่งโดยปกติแล้วน้ำมูกนั้นจะเป็นสีใสแต่เมื่อใดก็ตามที่ติดเชื้อแบคทีเรียนั้นน้ำมูกก็จะเปลี่ยนจากสีใสมาเป็นสีเหลืองหรือสีเขียวรวมถึงอาจจะมีเสลดร่วมด้วยซึ่งถ้าหากว่าไม่รีบรักษาเชื้อแบคทีเรียนี้ก็จะลุกลามไปยังพื้นที่บริเวณใกล้เคียงอย่างเช่นบริเวณลำคอหลอดลมและส่งผลทำให้มีอาการอื่นๆตามมายก

ตัวอย่างเช่นอาจจะมีสภาวะการติดเชื้อที่บริเวณหูชั้นกลางซึ่งถ้าหากว่าเชื้อมีความรุนแรงและไม่ได้รักษาก็อาจจะทำให้เกิดอาการปวดหูหรือถ้าหากว่ามากกว่านั้นก็อาจจะส่งผลทำให้แก้วหูทะลุก็ได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ยังส่งผลร้ายแรงอื่นๆอย่างเช่นอาจจะมีการติดเชื้อแถวบริเวณลำคอทำให้เกิดอาการไอและคออักเสบหรือถ้าหากเชื้อกระจายไปยังหลอดลมก็จะยิ่งมีอาการไอรุนแรงมากยิ่งขึ้นและอาจจะส่งผลไปยังปอดรวมถึงเกิดอาการหอบหืดได้  แล้วถ้าหากว่าเชื้อโรคปอดเมื่อไหร่อาการจะรุนแรงมากยิ่งขึ้นเพราะมันจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและอาจจะส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียว 

นอกจากนี้ถ้าหากใครปล่อยให้ตนเองเป็นไข้หวัดและเรื้อรังโดยไม่รีบรักษาอาการมันจะส่งผลทำให้สุขภาพร่างกายทรุดโทรมและจะมีโรคอื่นๆตามมาอีกเยอะแยะมากมาย

  อย่างเช่นเราจะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อเราเป็นโรคไข้แล้วมีน้ำมูกทำไมรีบรักษามันจะทำให้เรามีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยเป็นโรคไซนัสอักเสบ  เนื่องจากว่าน้ำมูกนั้นไปขังอยู่บริเวณโพรงจมูกและถ้าหากว่าเป็นไซนัสอักเสบก็จะมีผลต่อบุคลิกของเราเพราะจะมีกลิ่นเหม็นออกมาทางจมูกและถ้าหากว่าโรคไซนัสอักเสบอย่างรุนแรงก็อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบประสาทการมองเห็นของเราด้วย

 

ได้รับการสนับสนุนโดย      เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ

การดูแลเส้นผมให้สวยเงางาม

การดูแลเส้นผมเพื่อให้มีลักษณะสวยงามและเงางามมีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา ต่อไปนี้คือบางแนวทางที่สามารถช่วยดูแลเส้นผมให้สวยเงางาม

1.การล้างผม:ใช้ shampoo และ conditioner ที่เหมาะกับประเภทของเส้นผมของคุณ ล้างผมอย่างน้อยสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ หรือตามความจำเป็นของเส้นผม

2.การตัดผม:ตัดผมเป็นประจำเพื่อรักษารูปร่างทรงผม และลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับตีนผมหรือปลายผมแห้ง

3.การใช้ผลิตภัณฑ์ทำสวยผม:เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำสวยผมที่เหมาะกับประเภทของเส้นผม เช่น serum, oil, หรือ leave-in conditioner หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีที่ทำให้เส้นผมแห้งหรือทำลายโครงสร้างของเส้นผม

4.การแต่งทรงผม:ทำทรงผมที่เหมาะกับลักษณะของใบหน้าและสไตล์ที่ต้องการ ลองเปลี่ยนทรงผมเป็นประจำเพื่อเพิ่มความสดใสให้กับลุคของคุณ

5.การป้องกันความเสียหาย:หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือร้อนทำผมบ่อยๆ และใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อน ป้องกันผมจากรังสีแสงแดดโดยใส่หมวกหรือใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันรังสี UV

6.การดื่มน้ำและรับประทานอาหารที่เหมาะสม:ดื่มน้ำมากพอที่จะรักษาความชุ่มชื้นในเส้นผม

รับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อเส้นผม เช่น วิตามิน A, C, E, และโพรตีน

7.การนอนหลับ:นอนหลับในท่าที่ไม่ทำให้เส้นผมทับหน้าหรือเสียหลังใช้หมอนที่ไม่ทำให้เส้นผมเสียหลังหรือสามารถใช้ผ้าห่มที่เบาเป็นราคา

8.การดูแลเส้นผมตามฤดูกาล:ปรับการดูแลเส้นผมตามฤดูกาล เช่น เพิ่มความชุ่มชื้นในฤดูแล้ง หรือป้องกันการทับตัดในฤดูฝน

การดูแลเส้นผมเป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอและให้ความใส่ใจ เนื่องจากเส้นผมที่สุขภาพดีสวยงามมักมีผลต่อลุคทั้งหมดของคุณ

การอบผมด้วยความร้อนช่วยให้ผมดีจริงไหม

ข้อดี

– ทำให้ทรงผมทรงตกได้ดี: การใช้ความร้อนช่วยให้ทรงผมทรงตกได้ดีและยาวนาน.

– สามารถทำทรงผมได้เร็วขึ้น: ความร้อนช่วยให้เส้นผมง่ายต่อการทำทรงได้เร็วขึ้น.

– ช่วยปรับทรงผม: ความร้อนช่วยให้ง่ายต่อการปรับทรงผมให้ตรงตามที่ต้องการ.

ข้อเสีย

– ความเสียหายต่อเส้นผม: การใช้ความร้อนมากๆ หรือบ่อยๆ อาจทำให้เส้นผมแห้ง ซึมซับความชุ่มชื้นลดลง และทำให้เส้นผมแย่ลงได้

– เสี่ยงต่อการไหม้หรือทำให้เส้นผมแตกต่าง: การใช้ความร้อนมากเกินไปหรือในระยะเวลานานๆ อาจทำให้เส้นผมไหม้หรือแตกต่าง

– อันตรายต่อหนังศีรษะ: การใช้ความร้อนไม่ถูกวิธีหรือในระดับความร้อนที่สูงเกินไปอาจทำให้ร้อนถึงหนังศีรษะและเสี่ยงทำให้หนังศีรษะเสียหาย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    hoiana เวียดนาม

แนะนำอาหารที่ช่วยลดอาการซึมเศร้า

เนื่องจากโรคซึมเศร้าในสมัยปัจจุบันนี้เป็น หนึ่ง ในโลกหรืออาการที่พบจึงได้บ่อยและเกิดขึ้นบ่อยมากๆในสมัยปัจจุบันนี้ ซึ่งหลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า ลูกซึมเศร้านั้นเป็น หนึ่ง ในโรคที่อาจเกิดขึ้นจากความเครียด และความวิตกกังวลต่างๆ

เพราะคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ ใช้ชีวิตกันด้วยความเครียดและความกดดันต่างๆ จนจนอาจทำให้ร่างกายของตนเองนั้นเพิ่งออกอากาศเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าหรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ฉะนั้น รู้หรือไม่ว่าการที่เราหันมาดูแลสุขภาพร่างกายหรือให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง ถือเป็น หนึ่ง ในปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะหากเรามีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงมีสุขภาพจิตที่ดีก็จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าหรือโรคร้ายแรงอื่นๆได้นั่นเอง

แต่ทว่าเนื่องจากการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้จะแตกต่างกันออกไปทำให้บางคนมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตจนทำให้ตนเองนั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า

แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะในสมัยปัจจุบันนี้มีวิธีการมากมายหลากหลายวิธีที่จะช่วยบรรเทาความเครียดและทำให้ตนเองนั้นลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ ฉะนั้น สำหรับใครที่กำลังพบเจอกับปัญหาการเป็นโรคซึมเศร้า

วันนี้เรา    www.hoiana-exclusivex.com     ก็จะมาแนะนำอาหารที่รับรองได้เลยว่าหากเราทานเป็นประจำจะไม่เพียงแต่ช่วยลดความเครียดหรือช่วยลดอาการซึมเศร้าได้แต่ยังมีประโยชน์ดีๆต่อสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วย จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างไปดูกันเลย

ปลาทูน่า แน่นอนว่าอาหารประเภทนี้เป็น หนึ่ง ในอาหารที่เราสามารถหาทานกันได้ง่ายแถมยังมีประโยชน์ดีๆต่อสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วยซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าปลาทูน่าเป็น หนึ่ง ในอาหารที่สามารถลดอาการซึมเศร้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะอุดมไปด้วยสารทริปโตเฟน ซึ่งเป็นสารอาหารที่สามารถช่วยทำให้เราผ่อนคลายจากความเครียด ที่อาจก่อให้เกิดโรคซึมเศร้าได้นั่นเอง

เนื้อหมู อาหารประเภทนี้เป็น หนึ่ง ในอาหารที่หลายๆบ้านนั้นจะต้องมีติดบ้านไว้กันอย่างแน่นอน ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่านอกจากเนื้อหมูจะเป็น หนึ่ง ในอาหารที่ได้รับความนิยมและสามารถหาทานได้ง่ายแล้วยังมีประโยชน์ดีๆต่อสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถช่วยบรรเทาความเครียด และช่วยลดอาการซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี เพราะในเนื้อหมูจะมีสารทริปโตเฟนที่เป็นสารทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย จึงสามารถช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้นั่นเอง

ผลิตภัณฑ์นม หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่านมเป็น หนึ่ง ในเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมากเพราะนอกจากจะอุดมไปด้วยแคลเซียมที่สามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงยังอุดมไปด้วยสารทริปโตเฟนที่สามารถทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายยิ่งถ้าเราดื่มก่อนนอน จะยิ่งทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสามารถนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ รับรองได้เลยว่าหากใครที่กำลังมีความเครียดและเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าการดื่มนมก่อนนอนถือเป็น หนึ่ง ในตัวช่วยที่ดี

แนะนำท่าโยคะง่าย ๆ สำหรับมือใหม่

ในสมัยปัจจุบันนี้ มีรูปแบบการออกกำลังกายมากมายหลากหลายวิธีมาก ๆ ซึ่งเชื่อว่าแต่ละคนก็จะมีรูปแบบการออกกำลังกายที่แตกต่างกันออกไ เพราะบางคนอาจจะมีวิธีที่เหมาะสมสำหรับตนเองอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า การออกกำลังกายที่กำลังมาแรง และเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในสมัยปัจจุบันนี้คือ การออกกำลังกายในรูปแบบของการเล่นโยคะ

เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย โดยจะเน้นการใช้ท่าทางเป็นหลัก แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้วการออกกำลังกายในรูปแบบนี้หากเราเล่นเป็นประจำย่อมเกิดประโยชน์ และส่งผลดีต่อร่างกายของเราได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่เป็นมือใหม่ และอยากออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ หรือความแข็งแรงของร่างกาย การออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ตอบโจทย์มาก ๆ

แถมยังเหมาะสมสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาไปออกกำลังกาย แต่อยากมีรูปร่างและสุขภาพร่างกายที่ดี ฉะนั้น สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ และอยากหันมาออกกำลังกาย วันนี้เราก็จะมาแนะนำรูปแบบการออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะ ซึ่งท่าทางต่าง ๆ นั้นง่ายมาก ๆ แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย จะมีท่าไหนบ้างไปดูกันเลย

  • ท่าต้นไม้ ท่าทางนี้เป็นท่าที่เราสามารถทำได้ง่าย ๆ

แถมมือใหม่ก็สามารถทำได้ ขอบอกเลยว่าท่าโยคะท่านี้สามารถให้ประโยชน์ต่อร่างกายของเราได้เป็นอย่างมาก เพราะสามารถสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ร่างกายได้ ช่วยในเรื่องของการทรงตัว ช่วยให้ร่างกายของเรารู้สึกผ่อนคลาย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย รับรองได้เลยว่าหากเล่นท่านี้เป็นประจำจะช่วยทำให้กรทำงานของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

  • ท่าแห่งความสุข เป็นอีกหนึ่งท่าโยคะที่มือใหม่ไม่ควรพลาด

เพราะท่านี้เป็นท่าแห่งความสุขที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมาก เป็นท่าที่สามารถทำให้เราผ่อนคลาย มีสุขภาพจิตที่ดียิ่งขึ้น ช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย ทำให้การไหลเวียนเลือด หรือประเดือนของเรามาปกติได้นั่นเอง 

  • ท่าสุนัขก้มหน้า ท่าโยคะท่านี้สามารถให้ประโยชน์ต่อร่างกายของเรา

ได้เป็นอย่างมาก สามารถช่วยสร้างความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลังได้ แถมยังสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่เริ่มต้นด้วยท่าคลาน หลังจากนั้นให้กางขาและเข่าออก ท่านี้จะสามารถสร้างความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อของเราได้ สามารถสร้างความแข็งแรงให้แก่กระดูก ข้อต่อ และส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเราได้นั่นเอง เพียงแค่ทำค้างไว้ประมาณ 1 นาที ก็สามารถสร้างความความแข็งแรงให้แก่ร่างกายของเราได้อย่างมีประสิทิภาพ 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

3 สิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงหลังอาหารหากไม่อยากเป็นกรดไหลย้อน

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อนกันเยอะมากๆ เพราะในแต่ละวันนอกจากจะ มีพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมแล้ว ยังมีพฤติกรรมที่มักจะทำหลังรับประทานอาหารเสร็จ

เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน   ซึ่งขอบอกเลยว่าพฤติกรรมที่เราทำนั้นอาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เรานั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อนได้ง่ายมากยิ่งขึ้นแถมยังเป็นหนึ่งใน สิ่งที่อาจเป็นปัญหาและส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราได้อีกด้วย

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงนั้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตในประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังทำให้เรานั้นสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวปราศจากโรคร้ายได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าสิ่งไหนบ้างที่เราควรหลีกเลี่ยงหลังการรับประทานอาหารเสร็จเพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อน วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าจะมีสิ่งไหนกันบางทีเราควรจะหลีกเลี่ยงเพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพร่างกายที่ดีและช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อนได้ จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

หลีกเลี่ยงการนอนทันที แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้หลังรับประทานอาหารเสร็จมักที่จะมีพฤติกรรมการเอนหลังนอนเลยทันทีซึ่งรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมนี้ถือเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่ผิดและอาจเป็นปัญหาสุขภาพตามมาได้ เพราะการที่เรารับประทานอาหารเจ็บนั้นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือการนอนทันที

เพราะในระหว่างที่เรากินอิ่ม เราควรที่จะรอให้ระบบย่อยหายของเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่เป็นการทำร้ายร่างกายของเราจะเกินไปแต่หากเรานอนเลยทันทีอาจจะทำให้อาหารที่เราทานเข้าไปนั้นย้อนกลับมาจนทำให้เราอาเจียนออกมาได้นั่นเอง

หลีกเลี่ยงการอาบน้ำเลยทันที เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่หลายๆคนมักจะชอบทำหลังการรับประทานอาหารเสร็จ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราอาบน้ำเลยทันทีหลังรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่ผิด

เพราะการอาบน้ำเลยทันทีจะทำให้เรามีอาการจุกได้ แถมยังทำให้เราเสี่ยงต่อกลายเป็น โรคกรดไหลย้อนและท้องอืดได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังรวมไปถึงอาจทำให้เรา เป็นลมและเป็นอันตรายอื่นๆต่อร่างกายของเราอีกด้วย

หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม ถึงแม้ว่าหลายๆคนจะชื่นชอบการดื่มน้ำอัดลมหลังการรับประทานอาหารแต่รู้หรือไม่ว่าการที่เราดื่มมากๆนั่นจะยิ่งส่งผลกระทบต่อร่างกาย แถมยังทำให้เราเสียต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

เพราะในน้ำอัดลมนั้นจะอุดมไปด้วยแก๊สที่ค่อนข้างสูง ยิ่งถ้าเราดื่มเข้าไปนั้นจะทำให้แก๊สในกระเพาะอาหารของเราเยอะจนส่งผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร จนทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อนนั่นเอง

กาแฟดื่มช่วงไหนดีจะทำให้สมองและร่างกายของเราตื่นได้

กาแฟ ว่าเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่หลายหลายคนชอบที่จะดื่มช่วงเวลาเช้าเช้ากันเป็นอย่างมาก  เครื่องช่วยฟัง    เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่ากาแฟนั้น จะมีสารคาเฟ่อีนที่สามารถช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมองของเราได้ ทำให้สมองของเราตื่นตัวและร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น

แต่รู้หรือไม่ว่าในบางครั้งการที่เราดื่มกาแฟมากจนเกินเกินไป อาจจะทำให้สมองของเราทำงานหนักจนอาจส่งผลกระทบต่อหัวใจของเราได้

เพราะอาจจะทำให้หัวใจของเราเต้นแรงขึ้นจนผิดจังหวะ อาจทำให้ร่างกายของเรานั้นอ่อนเพลีย หรือเกิดอาการสั่นได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามหลายหลายคนก็ชื่นชอบในการดื่มกาแฟกันเป็นอย่างมาก จนทำให้บางคนนั้นดื่มกาแฟมากจนเกินไป จนทำให้การดื่มกาแฟนั้นมีประสิทธิภาพต่อการทำงาน

แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป สำหรับใครที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟมากๆ และอย่างที่จะดื่มกาแฟให้ได้ประสิทธิภาพ ช่วยกระตุ้นสมองในร่างกายให้ตื่นได้ วันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการดื่มกาแฟ หรือเราควรจะดื่มกาแฟช่วงไหนดีเพื่อให้สมองของเราและร่างกายของเราตื่นและกระปรี้กระเปร่า ไปดูกันเลย

การดื่มกาแฟช่วงเช้า

ถือเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเราต้องการที่จะเพิ่มคาเฟ่อีนเพื่อกระตุ้นการทำงานของสมอง ซึ่งช่วงเวลาเช้าถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการดื่มกาแฟมากๆ เพราะจะช่วยทำให้สมองของเราตื่นตัวและร่างกายของเรานั้นสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งถ้าเราดื่มช่วงเวลาเช้าหลังตื่นนอนหรือก่อนไปทำงาน จะทำให้ฤทธิ์ของคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟนั้น สามารถออกฤทธิ์เพื่อกระตุ้นสมองของเราได้ดีมากๆ

การดื่มกาแฟช่วงเวลาเที่ยง

หลังจากที่เรารับประทานอาหารเสร็จ อาจจะทำให้เรานั้นรู้สึกง่วงและอยากที่จะนอนหลับลงตรงนั้น แต่ทำให้หลายหลายคนนั้นไม่สามารถที่จะทำได้ ซึ่งการที่เราจะกระตุ้นสมองและร่างกายของเราให้ตื่นตัวได้นั้นคือ การดื่มกาแฟ เพราะการที่เราดื่มกาแฟในช่วงเวลานี้จะทำให้สมองของเรานั้นรู้สึกสดชื่นและตื่นตัวได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การดื่มกาแฟเพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของร่างกายอีกด้วย

การดื่มกาแฟช่วงบ่ายแก่ๆ

 สำหรับใครที่ช่วงเวลาพักเที่ยงมาแล้ว และอยากให้สมองและร่างกายตื่นตัวมากยิ่งขึ้น การดื่มกาแฟแก้วที่สองต่อวันในช่วงเวลาบ่าย หรือก่อนเริ่มงาน ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะทำให้ร่างกายของเราตื่นตัวได้ดี แถมยังเป็นช่วงที่หลายหลายคนนั้นมักที่จะรู้สึกง่วงในระหว่างวัน หากได้ดื่มกาแฟสักแก้วก็จะทำให้ร่างกายตื่นตัวและทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

อาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

มะเร็งเต้านม เป็นหนึ่งในโรคร้ายที่พบเขอได้บ่อยมาก ๆ และผู้หญิงส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้กันสูงมาก ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตในประจำวัน ซึ่งแน่นอนว่าหากสาว ๆ คนไหนที่กำลังมีความเสี่ยง นอกจากจะมีความกังวลต่อการใช้ชีวิตในประจำวันแล้ว ยังอาจทำให้หลาย ๆ คนมีความเครียด และความกดดันต่าง ๆ มากมายอีกด้วย แต่ทว่า ในสมัยปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นโรคที่พบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

แต่หากเราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์อยู่เป็นประจำ รวมไปถึงการใช้ชีวิตในประจำวันให้มีประสิทธิภาพ ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยดี ๆ ที่จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้ามนมได้นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม หากใครที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านม หรือกำลังพบเจอกับภาวะเสี่ยงนี้อยู่ ก็ไม่ต้องเป็นกังวไป เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำอาหารที่มีประโยชน์ ที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม รับรองได้เลยว่าหากทานเป็นประจำ นอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย ยังไม่ทำให้โรคมีอาการที่รุนแรงขึ้น จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย 

1.ธัญพืช หลายคนอาจทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

ว่า ธัญพืช เป็นหนึ่งในอาหารที่มีประโยชน์ดี ๆ ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะขนมปังโฮลวีท ข้าวโอ๊ต รวมไปถึงถั่วธัญพืชต่าง ๆ เพราะจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ยังสามารถช่วยลดอาการท้องผูก แถมยังช่วยเป็นยารักษโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ยิ่งถ้าใครมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านม หากทานเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะยิ่งดีต่อร่างกาย 

2.โปรตีน เป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก

แถมยังมีความจำเป็นต่อร่างกายของเราอีกด้วย ซึ่งรู้หรือไม่ว่าโปรตีนสามารถช่วยให้เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อภายในร่างกายของเราให้แข็งแรงได้ ยิ่งถ้าหากเราทานเป็นประจำก็จะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา รับรองได้เลยว่าหากใครมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง หากทานสารอาหารประเภทนี้เป็นประจำจะยิ่งดีต่อร่างกาย 

3.ผักผลไม้ เนื่องจากในผักหรือผลไม้นั้นจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดี

และมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเยอะมาก ๆ ซึ่งก็เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมด้วยเช่นกัน เพราะถ้าหากทานเป็นประจำนั้นนอกจากจะช่วยเพิ่มสารอาหารดี ๆ ให้แก่ร่างกายได้แล้ว ยังช่วยลดความรุนแรงของโรคมะเร็งเต้านมได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย    หูตึงรักษา

การทำอย่างไรเพื่อทำให้เราออกกำลังกายได้ทุกวัน

การทำอย่างไรเพื่อออกกำลังกายทุกวันนั้นขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายและสภาพร่างกายของแต่ละคน ดังนี้คือบางขั้นตอนที่คุณสามารถนำมาใช้ได้ จำไว้ว่าความสำเร็จในการออกกำลังกายทุกวันขึ้นอยู่กับการทำในลักษณะที่เป็นระบบและเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ

1.การกำหนดเป้าหมายที่เหมาะสม กำหนดเป้าหมายที่เป็นไปได้และที่เหมาะสมกับระดับพลังงานและสุขภาพทั้งกายและจิตใจของคุณ ตั้งเป้าหมายที่สามารถบรรลุได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินหรือวิ่งในช่วงเวลาที่มี, การทำแอโรบิค, หรือการฝึกซ้อมทางกายภาพอื่นๆ ที่คุณสนใจ

 2.ตั้งเวลาเฉพาะ วางแผนเวลาในวันของคุณเพื่อการออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากมายแต่ควรเป็นกิจกรรมที่สัมพันธ์กับความสบายของคุณ หากคุณมีตารางกำหนดที่ค่อนข้างแน่น, คุณสามารถแบ่งการออกกำลังกายออกเป็นช่วงสั้นๆ ตลอดวัน, เช่น 15-30 นาทีต่อครั้ง

 3.ทำกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกวัน การเลือกกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกวันหรือเป็นประจำเป็นที่เริ่มต้น เช่น การเดินหรือการยืด การทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบจะช่วยเพิ่มความสนุกและยินดีในการออกกำลังกาย, ทำให้มันเป็นส่วนที่สนับสนุนในชีวิตประจำวันของคุณ

 4.เชิญเพื่อนร่วมกิจกรรม การมีเพื่อนร่วมกิจกรรมสามารถเป็นแรงจูงใจและสนุกสนานมากขึ้น การมีคนร่วมกับคุณจะช่วยให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องสนุกขึ้นและทำให้คุณมีความรับผิดชอบต่อตนเอง

 5.ใช้ทางเดินหรือบันได การเลือกใช้ทางเดินหรือบันไดในการเคลื่อนที่ในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้บันไดแทนลิฟท์ หากคุณไม่มีเวลาหรืออุปกรณ์ที่จำเป็น, การใช้วิธีการเดินหรือยกต่างๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดี

 6.ใช้แอปพลิเคชันหรืออุปกรณ์เฝ้าระวัง มีแอปพลิเคชันหรืออุปกรณ์เฝ้าระวังที่ช่วยบันทึกกิจกรรมทางกายและช่วยติดตามความคืบหน้า การวางตารางการออกกำลังกายเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อให้มันเป็นส่วนหนึ่งของวันทุกวันของคุณ

 7.หาคู่คิดจะออกกำลังกาย มีคู่คิดที่จะออกกำลังกายร่วมกัน, เช่น แฟนหรือเพื่อน, จะทำให้การออกกำลังกายเป็นเวลาที่สนุกและท้าทาย ทำให้อยากไปบ่อยๆ หรือมีแรงกระตุ้นในการออกกำลังกาย

 การที่มีเวลาพักผ่อนและฟื้นตัวจะช่วยให้คุณมีพลังงานในการออกกำลังกายในทุกๆ วัน  เครื่องช่วยฟังอย่างดี    จะช่วยทำให้คุณมีความต้องการในการออกกำลังกายมากขึ้น ช่วยสร้างความสมดุลให้แก่ร่างกาย ให้ร่างกายรู้สึกดี รู้สึกถึงการต้องทำเป็นประจำ ด้วยแรงจูงใจ การมีรูปร่างที่เปลี่ยนไป การพึ่งพาสิ่งรอบด้านเป็นตัวช่วยชั้นดีในการออกกำลังกาย จงพยายามทำให้บ่อยครั้งจนเป็นนิสัย จากนั้นคุณจะออกกำลังกายได้จนเป็นความเคยชิน

เทคนิคกินเจอย่างไรไม่ให้อ้วน

รู้ไหมว่าคนส่วนใหญ่ที่หันมากินเจนั้นอาจจะเนื่องด้วยเหตุผลหลายๆประการที่แตกต่างกันออกไป เพราะบางคนอาจจะมองว่าการกินเจนั้นเป็นอาหารที่ดีและมีประโยชน์แถมยัง ทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่เพียงพออีกด้วย แต่กลับบางคนอาจจะมองว่าอาหารเจเป็นอาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์

เพราะเราจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภทจึงอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอซึ่งในมุมมองของการกินเจก็มักที่จะแตกต่างกันออกไป

เพราะโดยปกติแล้ว อาหารจะเป็นอาหารที่เน้นไปทางสุขภาพ ผักผลไม้ โดยเราจะละเว้นอาหารที่ทำมาจากสัตว์ แต่รู้หรือไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วนั้นอาหารเจถือเป็นหนึ่งในอาหารที่อุดมไปด้วยแคลอรี่ที่สูงมากๆ แถมยังอุดมไปด้วยไขมันอิ่มตัวที่สูงที่สามารถเพิ่มโอกาสเสี่ยงทำให้ร่างกายของเรา เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเบาหวานหรือโรคอ้วนนั้นเอง เพราะไม่ว่าใครก็คงไม่อยากที่จะให้ตนเองนั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน เพราะทานอาหารเจ แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป สำหรับใครที่ ถือศีลกินเจ วันนี้เราก็จะมาแนะนำเทคนิคง่ายๆในการกินเจอย่างไรไม่ให้อ้วนรับรองได้เลยว่านอกจากจะดีต่อสุขภาพร่างกายของเราแล้วยังไม่ทำให้เราอ้วนได้ง่ายอีกด้วย ไปดูกันเลย

1.การงดอาหารแปรรูป แน่นอนว่าหนึ่งในปัจจัยของการกินเจ

นั้นคนส่วนใหญ่มักที่จะเลือกทานอาหารแปรรูปกันอยู่บ่อยๆซึ่งรู้หรือไม่ว่าอาหารแปรรูปนอกจากจะเป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์แล้วยังอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราอีกด้วยเพราะโดยปกติแล้วจะมีสารอาหารที่ไม่เพียงพอแถมยังอุดมไปด้วย โซเดียมที่สูงซึ่งอาจเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการทำให้เราเป็นโรคอ้วนได้ง่ายมากขึ้น ฉะนั้น ทางที่ดี หากเราเลือกที่จะกินเจเราก็ควรที่จะงดพวกอาหารแปรรูป แต่เน้นไปที่อาหารที่ดีและมีประโยชน์เพื่อที่ให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่เพียงพอนั่นเอง

2.การเพิ่มผักเข้าไปในเมนูอาหาร เนื่องจากผักถือเป็นหนึ่งในอาหารเจ

ที่หลายๆคนนั้นอาจจะชื่นชอบเพราะแน่นอนว่าผักผลไม้ส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีและมีประโยชน์แถมยังเป็นอาหารเจที่ดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วย ยิ่งเธอใครอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักขอบอกเลยว่าการเพิ่มผลักเข้าไปในเมนูอาหารที่เราทานอยู่บ่อยๆนั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายของเราและช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนในระหว่างกาลกินเจนั่นเอง

3.การงดคาร์โบไฮเดรต ถึงแม้ว่าสารอาหารประเภทนี้จะเป็นสารอาหารที่ดี

และมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเรามากแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าหากเราทานมากๆก็อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราได้ เพราะอาหารประเภทที่มีคาร์โบไฮเดรตส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาหารที่มี ไฟเบอร์น้อยแถมยังอุดมไปด้วยน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง จึงอาจเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนได้ง่ายในระหว่างการกินเจ เพราะฉะนั้นทางที่ดีเราควรที่จะงดหรือหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้ให้ได้มากที่สุดเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีและไม่ทำให้เราอ้วนได้ง่ายนั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ถ่านเครื่องช่วยฟัง